Admin IB
- 2 พ.ย.
- ยาว 1 นาที

Picosecond Laser การกำจัดขนรักแร้แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกันอย่างไร ?

1. การโกนขนรักแร้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ มีดโกนทั่วไป กับ มีดโกนไฟฟ้า

ข้อดี เป็นวิธีกำจัดขนที่ง่าย รวดเร็ว ประหยัด สามารถทำเองที่บ้านได้
ข้อเสีย ทำให้เกิดตุ่มหนังไก่ ขนคุดได้ง่าย อาจเกิดผื่นแดง ระคายเคืองหรือบาดแผลจากใบมีดโกน ขนยาวขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วภายใน 1-3 วัน และมีเส้นขนที่หนาแข็งกว่าปกติ

2. การถอนขนรักแร้ : แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การถอนด้วยแหนบและด้วยเครื่องถอนขน

ข้อดี เป็นวิธีที่ง่าย ประหยัด สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และสามารถกำจัดขนออกไปได้ทั้งรากขน
ข้อเสีย ให้ความรู้สึกเจ็บ ทำให้รู้ขุมขนกว้าง เสี่ยงต่อการเกิดตุ่มหนังไก่ และขนอาจจะขาดระหว่างการถอน ทำให้เกิดขนคุดได้

3. การแว็กซ์ขนรักแร้ มีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบของแว็กซ์ เช่น แผ่นแว็กซ์กำจัดขนสำเร็จรูป แว็กซ์น้ำตาล แว็กซ์ขี้ผึ้ง เป็นต้น

ข้อดี ขนหลุดออกไปได้รวดเร็ว และขนขึ้นช้า
ข้อเสีย ให้ความรู้สึกเจ็บและอาจทำให้ขนขาดเป็นตอแข็ง ๆ ได้ เสี่ยงต่อการแพ้ ทำให้เกิดตุ่มนูน รอยแดง และการอักเสบของผิวหนัง

4. การใช้ครีมกำจัด การใช้ครีมกำจัดขนรักแร้ เป็นวิธีที่ให้ความนิยม เพราะไม่ต้องทนกับการเจ็บในระหว่างการถอนขน การแว็กซ์ขน และ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการโดนใบมีดบาด

ข้อดี ไม่เจ็บเหมือนการถอนหรือแวกซ์ สามารถกำจัดขนได้รวดเร็ว ราคาไม่สูง
ข้อเสีย ต้องกำจัดบ่อยเพราะไม่ใช่วิธีกำจัดขนถาวร และเสี่ยงต่อการแพ้ อาจทำให้รักแร้ดำได้

5. การกำจัดขนด้วย Picosecond Laser เป็นวิธีกำจัดขนโดยใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์เข้าไปที่รากขน เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อบริเวณที่มีเซลล์เม็ดสี ทำให้เส้นขน รากขน ที่ทำหน้าที่ผลิตขนก็จะถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถผลิตสเต็มเซลล์ที่ทำให้ขนงอกได้

ข้อดี ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ลดการเกิดใหม่ของเส้นขน รูขุมขนกระชับเรียบเนียน หมดปัญหาขนคุด และตุ่มหนังไก่ กำจัดขนได้ทุกส่วนของร่างกายอย่างอ่อนโยน มีความปลอดภัยและสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร
ข้อเสีย ราคาสูงเมื่อเทียบกับการกำจัดขนแบบอื่น ๆ ไม่สามารถทำที่บ้านเองได้ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ รวมถึงต้องไปทำที่คลินิกอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด